ประสบการณ์การเป็นนักเรียนทุน ของนายปิยะพงศ์ บุญโสม โอดอส2
- หมวด: ประสบการณ์จากนักเรียนทุนอำเภอฯ
- เขียนโดย สนง.ผู้ดูแลนักเรียนไทย
ประวัติย่อ
นายปิยะพงศ์ บุญโสมจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนโซ่พิสัยพิทยาคม อ.โซ่พิสัย จังหวัดหนองคาย และสอบชิงทุนรัฐบาล ทุนหนึ่งเภอหนึ่งทุน รุ่นที่ 2 ได้มาศึกษาประเทศญี่ปุ่น ระดับปริญญาตรี
ก.ย.49 - มี.ค. 51 เดินทางมาประเทศญี่ปุ่น และเข้าศึกษาณ สถาบันสอนภาษา JASSO
เม.ย. 51 -มี.ค. 55 เข้าศึกษาระดับปริญญาตรี ณ สาขาวิศวกรรมยานยนต์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ Tokai University
รางวัลที่ได้รับ:เกียรตินิยมอันดับ 1 และที่ 1 ของสาขาวิศวกรรมยานยนต์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ (จากนักเรียนทั้งหมดในสาขา 235 คน)
ปัจจุบันเข้าทำงานที่บริษัท Honda Motor Co.,Ltd.
ความใฝ่ฝัน :อยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบอุตสาหกรรมเมืองไทย ให้เป็นศูนย์กลางทางด้านอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ของเอเชีย และเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจมั่นคงไม่แพ้ประเทศที่พัฒนาแล้ว
สิ่งที่ฝันอยากเป็นหลังได้รับทุนก่อนมาญี่ปุ่น :
1. ถ้าได้เข้ารับราชการ อยากทำงานที่เกี่ยวกับการพัฒนาระบบอุตสาหกรรม(กระทรวงอุตสาหกรรม)
2. ถ้าเข้าทำงานในเอกชน อยากทำงานในบริษัทที่เกี่ยวกับยานยนต์ และอยากอยู่ในตำแหน่งที่สามารถ ดึงเงินลงทุนเข้ามาในประเทศให้มากยิ่ง
นายปิยะพงศ์ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ การใช้ชีวิตและการศึกษาในประเทศญี่ปุ่นดังต่อไปนี้
ก่อนมาญี่ปุ่น
สวัสดีครับน้องๆทุกคน ก่อนอื่น ต้องขอแสดงความยินดีกับน้องทุกคนด้วยนะครับ ที่สามารถสอบผ่าน เข้ารับทุนได้
ตอนที่พี่ได้รับทุนมาใหม่ๆ ก่อนมาญี่ปุ่น ก็เป็นกังวลอยู่เหมือนกันว่า กลัวจะเรียนไม่ได้ กลัวจะถูกส่งกลับประเทศ เพราะพี่ก็อยู่ รร. ในอำเภอในชนบท ไม่ได้เรียนกวดวิชา ไม่ได้มีอาจารย์ต่างชาติมาสอนภาษาอังกฤษ และไม่เคยเรียนมาษาญี่ปุ่นมาก่อน แต่พี่คิดเสมอว่า เมื่อเราได้รับทุนมาแล้ว โอกาสที่เราได้รับมา ทุกคนได้มาเท่ากัน คนอื่นเขาทำได้ เราก็ต้องทำได้ ขอแค่เรามีความมานะ ตั้งมั่น และไม่ยอมแพ้ เราก็จะทำได้เหมือนกัน
ก่อนมาญี่ปุ่น พี่ได้เรียนภาษาญี่ปุ่น3 เดือน ตามคอร์สที่รัฐบาลจัดให้ ตอนแรกๆพี่ก็ไม่ค่อยรู้พื้นฐานเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยมีโอกาสได้เรียนจริงๆจังๆสักที่(รร.อยู่ในชนบท บุคคลากรไม่เพียงพอเหมือนกัน รร.ในเมือง) จึงทำให้ไปช้ากว่า เพื่อนๆคนอื่นในห้อง แต่พี่ก็ไม่ยอมแพ้ และคิดอยู่เสมอว่า เมื่อเราเรียนไปได้ช้ากว่าคนอื่น เราต้องเรียนให้เยอะกว่าคนอื่น เพื่อที่จะตามเขาให้ทัน และแซงหน้าเขาให้ได้ หลังจากตั้งใจเรียนจบคอร์ส3 เดือน ความรู้ภาษาญี่ปุ่นพี่ก็ไปได้ดีขึ้น โดยไม่น้อยหน้าเพื่อนๆเลย
สิ่งที่จะแนะนำ ตอนที่น้องๆเรียนภาษาที่เมือไทย
1. ท่องคำศัพท์ทุกวัน อย่างน้อยๆ5-10 คำ ท่องและทบทวนทุกวัน และอย่าท่องแต่ปากป่าว ให้เขียนด้วย 1 คำศัพท์ ต่อ5 บรรทัด
2. ฝึกพูด หรือ อ่านหนังสือภาษาญี่ปุ่น โดยการอ่านออกเสียง อย่างน้อยๆ วันละ1 - 2ชม.
3. ทบทวนหลังจากเรียนเสร็จทุกวัน อย่างน้อย30 นาที
4. ฟังเพลงภาษาญี่ปุ่น
ตอนเรียนภาษาญี่ปุ่น
ที่ รร.ภาษาที่พี่เรียนอยู่(JASSO) เขาจะสอน อาทิตย์ละ5 วัน แบ่งเป็นห้องๆ ตามระดับความสามารถ ตอนพี่เข้าใหม่ๆ พี่ก็อยู่ห้องท้ายๆ(มี 5 ห้อง) มีคนไทยคนต่างชาติผสมกัน การเรียนการสอนใน ร.ร ภาษา จะเริ่มตอนประมาณ08.30 น. - 16.00 น.ทุกวันภาคเช้าจะมีการเรียนการเขียนตัวคันจิ ประมาณวันละ8 ตัว คำศัพท์ประมาณ 20กว่าคำ และไวยกรณ์ ในทุกๆเช้าก่อนเริ่มเรียน ก็จะมีการสอบเขียนคันจิและคำศัพท์ทุกวัน พอภาคบ่ายก็มีการฝึกฟังและฝึกอ่าน
เมื่อผ่านไป 6 เดือนก็มีการสอบแยกห้อง ด้วยความที่พี่เป็นคนไม่เก่งแต่ขยัน และอ่านตำรา ทบทวนทุกวัน จึงทำให้กระโดดชึ้นไปอยู่ห้อง 1 จากนั้นพอเรียนภาษาครับ ปีครึ่ง พี่ก็สอบเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย
สิ่งที่จะแนะนำ ตอนที่น้องๆเรียนภาษาที่ ร.ร. สอนภาษาในญี่ปุ่น
1. ใช้เวลาอ่านหนังสือ(ทบทวนบทเรียน เขียนคันจิ ท่องคำศัพท์) อย่างน้อยวันละ4 ชม.ขึ้นไป
2. การอ่านหนังสือให้ฝึกทำทั้งเช้าและเย็น อ่าน ชั่วโมงครึ่ง และก็พัก 10 นาที สลับกันไป(อย่าอ่านและท่องหนังสือเกิน3 ชม.ติดต่อกัน เพราะสมองไม่จำแน่นอน)
3. คบหากับเพื่อนชาวต่างชาติให้มากๆ ลดเวลาที่ทำกิจกรรมร่วมกันกับเพื่อนคนไทยให้น้อยลง(พยายามไม่ใช้ภาษาไทย)
4. อย่าอ่านแต่หนังสือเพียงอย่างเดียว เที่ยวข้างนอก ดูสิ่งต่างๆ เรียนรู้จากโลกภายนอกและสังคมให้มากชึ้น
5. เข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่โรงเรียนภาษาจัดขึ้นเป็นประจำ
6. เมื่อไม่เข้าใจในเนื้อหา อย่าเก็บไว้คนเดียว ถามอาจารย์หรือไม่ก็รุ่นพี่สม่ำเสมอ
ส่วนประสบการณ์ในมหาวิทยาลัยนั้น พี่ยังไม่เล่าให้น้องๆฟังดีกว่า เอาไว้ให้น้องๆมาญี่ปุ่นก่อนแล้วพี่คงจะมีโอกาศได้เข้าร่วมงานปฐมนิเทศน้องๆ แล้วพี่จะเล่าประสบการณ์ในมหาวิทยาลัย รวมไปถึงวิสัยทัศน์ในการดำเนินชีวิตให้น้องๆฟัง ตอนนี้ขอให้น้องๆ ตั้งใจเรียนให้เต็มที่ที่เมืองไทยนะคร๊าบ
และสุดท้าย พี่ขอฝากอีกอย่างคือ
ขอให้น้องๆทุกคนมีความกตัญญู ทั้งต่อครอบครัว ญาติมิตร ประเทศชาติบ้านเมือง และขอให้ทุกคนอย่าลืมตัว อย่าลืมพื้นหลังของตนเอง อย่าลืมหมู่บ้าน อย่าลืมประเทศชาติ น้องๆทุกคนทำได้ครับ ขอให้ตั้งมั่น อย่ายอมแพ้ และแน่วแน่เข้าไว้ ความสำเร็จรอน้องๆอยู่นะครับ